Sunday, October 5, 2008

Wonderful weekend

ช่างเป็นศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ที่ยอดเยี่ยมไปเลย... สงสัยว่ากฎแห่งแรงดึงดูดจะใช้ได้แฮะ ผมเริ่มต้นด้วยการไปกินข้าวเย็นกับพี่ๆที่ Mycom ที่ร้าน Tohkai ตรงซอยธนิยะ นานแล้วที่ไม่ได้เจอกันเยอะๆแล้วก็หัวเราะกันแบบหลุดโลกแบบนี้ การหัวเราะนี่มันเป็นยาจริงๆด้วย มันเหมือนห้องย้อนเวลายังไงยังงั้น ผมนึกถึงเมื่อหลายปีที่แล้วที่ผมยังเป็นส่วนหนึ่งของ Mycom และพวกเราทำงานกันแบบบ้าคลั่ง แต่ก็ยังพอจะมีเวลามากินกันแบบกระเพราะรั่วได้ เรื่องกินนี่มันเป็นงานหลักอีกอย่างของพวกเราเลยก็ไม่ปาน ผมเหมือนได้กลับบ้านที่มีพี่ๆเต็มไปหมด เนื้อก็อร่อยนะ แต่ผมว่ามื้อนี้มันไม่ใช่แค่รสชาติ ตั้งใจไว้ว่าต่อจากนี้ไปจะต้องเจอกันบ่อยขึ้น ซักสองเดือนครั้งได้ก็คงจะดี...

หลังมื้อเย็นผมก็ไปเที่ยวกับเพื่อนๆต่อ ก็บังเอิญเจอ"แขน"ด้วย แต่ก็ไม่เป็นไรมาก คุยกันแค่พอเป็นพิธี วันรุ่งขึ้นผมนัดทานมื้อเที่ยงกับเพื่อน MIM... เหมือนกับนานแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้เจอสามสี่คนนี้ ผมเหมือนเพิ่งตื่นอีกแล้ว ผมรู้ตัวทันทีเลยว่าผมคิดถึงการใช้ชีวิตแบบสบายๆกับเพื่อนๆเหล่านี้จริงๆ... ที่ผ่านมาผมไปมัวทำอะไรอยู่ ผมมองข้ามคนดีๆรอบตัวเหล่านี้ไปได้ยังไง

พอกินเสร็จผมก็ไปเจอน้องๆ MIM อีกรุ่น ไปดูหนัง Clone Wars มา ถึงจะงีบไปเล็กน้อย แต่ก็เป็นหนังที่สนุกดี จากนั้นก็ไปหาอะไรกินแล้วก็บังเอิญมีคอนเสิร์ตของ K Bank โอ้.. ได้ดูคิ้ม เบน โก้ แล้วก็โก๊ะตี๋ฟรีๆซะงั้น นี่ก็เป็นอีกอย่างที่ผมชอบมาก ใช่แล้วครับ.. ดนตรี ทุกครั้งที่ผมหลุดไปอยู่ในโลกของดนตรี ผมจะหลุดจากพันธนาการทั้งปวงไปด้วยเหมือนกัน ผมสาบานได้เลยว่าถ้าคิ้ม โก้ เบนมีความสามารถพอที่จะเล่นดนตรีโดยไม่หยุดเป็นเวลา 24 ชม.ได้ ผมก็มีปัญญาที่จะนั่งฟังไปเรื่อยๆได้เหมือนกัน (ฟังดูกินแรงชาวบ้านจริงๆ)

เช้าวันนี้ (วันอาทิตย์) เป็นวันที่ผมรอมานาน... งาน Open House ของ MIM ครับ นี่เป็นปีที่ 3 แล้วที่ผมได้เป็น speaker บนเวที มีคนฟังมากมาย บรรยากาศที่คุ้นเคย คนที่คุ้นเคยเต็มไปหมด นี่ก็เป็นบ้านอีกหลังของผมเหมือนกัน (ฟังดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เหมือนคนมีหลายบ้าน) แต่ผมสนุกกับ Open House ทุกๆครั้ง.. ไม่ดิ ผมสนุกกับทุกๆงานที่เป็นของ MIM ต่างหาก วันนี้ก็เจอ"แขน"อีกเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้คุยกันเลย นอกจากกลับบ้านแล้วก็ MSN ไปบอกว่างานที่เค้าเตรียมมาค่อนข้างดี ตกเย็นผมก็ไปนวดที่ปากซอยมา เป็นการนวดที่ดีที่สุดครั้งนึงเลยทีเดียว พี่แกกะว่าจะเหยียบผมให้ตายเลยก็ว่าได้ เจ็บโคตรแต่พอเสร็จแล้วสบายตัวจริงๆ เค้าเองก็คงถูกใจผมไม่น้อย เห็นชมใหญ่ว่า "นี่น้องก็ชอบให้นวดแรงๆเหมือนกันนะนี่ เป็นคนอื่นร้องไปแล้ว" ผมตอบสั้นๆง่ายๆ "พี่ ไอ้ที่ผมไม่ร้องไม่ได้แปลว่าไม่รู้สึกอะไร แค่ร้องไม่ออกครับ" -_-" คราวหน้าตั้งใจแล้วว่าจะนวดกับพี่คนนี้อีก ใครอยากลองก็เชิญได้นะครับ พี่เค้าชื่อพี่พยอม ร้านสะบันงา ปากซอยอารีย์สัมพันธ์ 5 ครับ

ตอนนี้จะสามทุ่มแล้ว จริงๆแอบคิดอยู่ว่าจะนอนเลยดีมั้ย แต่พอนึกไปนึกมา ถ้ามันนอนอิ่มตั้งแต่ตีสี่เนี่ย ตูจะตื่นมานั่งทำอะไรวะ เลยนั่งดูทีวีไปก่อน อ้อ... เพื่อนโอ๋เพิ่งโทรมาเมื่อกี๊ มันบอกว่าเพิ่งจะรู้ว่าจริงๆผมมี secret admirer เยอะเหมือนกัน ฟังแล้วก็แอบดีใจ ถึงจะพอได้ยินว่ามีคนนั้นคนนี้แอบชื่นชมบ้าง แต่พอมีเพื่อนที่(แม่ง)ไม่เคยมองเห็นจุดนี้ของเรามาบอก ฟังแล้วมันก็แอบหัวใจพองโตไม่ได้ ดีใจๆ ^^ อืม เขียนไปเขียนมาก็ไม่รู้จะเขียนไรต่อแล้ว แค่รู้สึกมีความสุขแล้วอยากจะเล่าให้ใครฟัง

เอาเป็นว่าพอก่อนละกันนะครับ ไว้จะมาเล่าใหม่ ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจใน blog ที่แล้วนะครับ ผมรู้สึกได้ถึงความห่วงใยของทุกคน ผมดีใจที่ผมมีคนดีๆรอบตัวมากมาย ผมจะไม่ลืมเลยจริงๆ เบิร์ดรักทุกคนนะครับ