Tuesday, November 16, 2010

บันทึกส่งท้าย...แด่อ่างขางที่รัก

ปีที่ 5 แล้วที่กลับไปอ่างขาง แม้จะจำความรู้สึกปีแรกๆเป๊ะๆไม่ได้ แต่ก็รู้ว่าการตั้งตารอไปแต่ละครั้งเหมือนกับไม่เคยไปมาก่อน และการกลับมาจากอ่างขางก็จะมีความรู้สึกเหมือนกันทุกครั้งคือ อิ่มเอม, ศรัทธา, ตื้นตัน และเริ่มนับถอยหลังถึงวันที่จะได้ไปอีกครั้ง

จริงๆแล้วจะว่าไปสภาพแวดล้อมของอ่างขางแม้จะมีส่วนแต่ก็ไม่ได้เป็นปัจจัยหลักสักเท่าไหร่ อากาศเย็นๆ ป่าที่อุดมสมบูรณ์มันเป็นแค่ตัวประกอบฉากที่ทำให้เนื้อเรื่องหลักมีพลังและมีเสน่ห์มากขึ้นเท่านั้นเอง ส่วนหัวใจจริงๆของความประทับใจกลับเป็นเรื่องราว เป็นตำนาน เป็นจารึกที่มีไม่กี่คนที่รู้ น้อยคนที่ได้สัมผัส แต่กลับมีผลกับคนมากมายมหาศาล เป็นการให้ที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว การให้ที่ไม่ใช่เงินทองมากมาย ไม่ใช่การอวดอ้างเพื่อสร้างภาพ แต่เป็นการให้ที่หวังเพียงว่าคนรับจะอยู่ได้อย่างมีความสุขในทุกๆลมหายใจที่เหลือ การให้อย่างที่"พ่อ"คนหนึ่งจะสามารถให้"ลูก"ได้ ต่างกันแค่เพียงเรื่องราวนี้มีพ่อเพียงหนึ่งคน แต่มีลูกจำนวนนับร้อยพันที่ต่างทั้งที่มา ฐานันดร และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกันเลยทางสายเลือด ... เพราะอะไร"พ่อ"ที่ไม่ได้เป็นผู้ให้กำเนิดถึงให้"ลูก"ได้มากมายขนาดนี้

ในขณะที่ลงเขา ผมก็ได้แต่นึกทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่ได้ยิน และสิ่งที่ได้เห็น ... ตัวผมจากมาแล้วแต่บางอย่างของผมยังอยู่ที่นั่น ... เปล่า ผมไม่ได้ลืมอะไรไว้ แต่ผมตั้งใจที่จะฝากความศรัทธา ความตื้นตัน และความอิ่มเอมไว้ที่อ่างขาง... ผมจะกลับมาอีก ผมจะมาขอบคุณทุกๆคนที่นั่นอีกครั้งที่ทำให้เมืองไทยยังโคตรจะน่าอยู่ ขอบคุณจริงๆครับ

ผมรักในหลวงและจะขอเกิดมาเป็นเศษธุลีบนแผ่นดินของพระองค์ทุกๆชาติไป

Tuesday, November 9, 2010

เปรียบเทียบ Tablet 6 รุ่นเด่น

จากวันที่ค่ายยักษ์ใหญ่ออกแท็บเล็ตเขย่าโลกอย่าง iPad เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าสะเทือนไปหลายๆวงการทั้งวงการ E-Books วงการมัลติมีเดีย อุปกรณ์พกพา หลายๆค่ายก็เริ่มออกตัวกับระบบปฏิบัติการอื่นๆอย่าง Android, BlackBerry ในวันนี้เราคงได้ยินชื่อ tablet จากคนไอทีรอบข้างบ่อยขึ้นจนติดหู ตอนนี้ tablet ถือว่าเป็นอุปกรณ์ไอทีที่กำลังได้รับความนิยม และที่พูดถึงและถูกจับตาเป็นอย่างมาก เป็นกระแสใหม่ที่ผู้ผลิตหลายๆเจ้ากำลังหันมาให้ความสนใจ และด้วยราคาที่ถูกลงอย่างมากเมื่อเทียบกับยุคแรกๆทำให้ tablet กำลังจะกลายมาเป็นของเล่นที่ใครหลายๆคนอยากเป็นเจ้าของ .... แต่ตัวไหนดีล่ะ?

วันนี้ลองมาดูกันครับว่า tablet ที่อยู่ในตลาดมันมีตัวไหนบ้างและท้ายที่สุดแล้วตัวไหนน่าจะเหมาะกับคุณ ซึ่งแท็บเล็ตที่ผมจะพูดถึงในบทความนี้คงหนีพี่ใหญ่ที่ออกมาเขย่าวงการไปไม่พ้น นั่นก็คือ iPad จาก Apple ที่ปลุกตลาด tablet ให้ตื่นอย่างเต็มตัว และแน่นอนว่าเมื่อพูดถึง Apple แล้วก็ต้องพูดถึงคู่แข่งอย่าง Android ที่มีหลากหลายผู้ผลิตกำลังเข็น Android tablet ออกมาแข่ง ไม่ว่าจะเป็น Galaxy Tab ที่ Samsung ส่งมาท้าชนกับ iPad หรือจะเป็น Wellcom A800 ที่แจ้งเกิดในบ้านเราอย่างสวยงาม รวมไปถึง Dell Streak น้องใหม่ที่กำลังจะวางขายในบ้านเราเร็วๆนี้ แต่นั่นก็ยังไม่พอ เมื่อฝั่งของ Microsoft ก็จับมือกับพันธมิตรอีกหลากหลายรายเตรียมดัน Windows 7 tablet ออกมาแย่งส่วนแบ่งบ้าง จนทำให้ BlackBerry ก็นิ่งนอนใจไม่ได้ ต้องออกมาประกาศว่าบริษัทจะส่ง Playbook ออกมาสู้ในตลาดนี้บ้าง สงคราม tablet ที่กำลังระอุนี้จะเป็นอย่างไร เราลองมาดูกันเลยดีกว่าครับ


iPad

เริ่มจาก iPad ที่ทั้งโลกให้ความสนใจและแย่งกันซื้อจนทำให้ยอดขายพุ่งไปอยู่ที่ 4.5 ล้านเครื่องต่อไตรมาสแล้ว iPad ถือเป็น Tablet ที่ต่อยอดความสำเร็จมาจาก iPhone ได้อย่างลงตัว โดยดึงจุดแข็งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานที่ง่าย, หน้าตาที่ดูสวยงาม, การใช้ฐานของแอพพลิเคชั่นที่แข็งแรง ฯลฯ ทำให้ iPad สามารถแจ้งเกิดได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนักเมื่อเทียบกับคู่แข่งหลายๆราย

สำหรับการใช้งาน iPad ถือได้ว่ารักษามาตรฐานของสินค้า Apple ได้เป็นอย่างดี การตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอและความลื่นยังเป็นจุดเด่นแรกๆที่ทำให้ประทับใจได้ทันทีก่อนที่จะเริ่มใช้งานแอพพลิเคชั่นใดๆด้วยซ้ำไป ตัวเครื่องที่ขนาดหน้าจอค่อนข้างใหญ่ทำให้การอ่านเอกสาร, หนังสือ e-book, การจัดการกับอีเมลล์ หรือแม้แต่การดูหนังก็ทำได้อย่างสะดวกและเต็มอรรถรสมาก นอกจากนั้นจุดเด่นเรื่องการใช้แบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ยิ่งช่วยทำให้ iPad เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะกับการพกพาติดตัวไปใช้งานนอกบ้านอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม มีผู้ที่ใช้ iPad หลายๆคนบ่นว่าเนื่องจากขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ทำให้เมื่อใช้งานนานๆแล้วเกิดอาการเมื่อย รวมถึงการที่ iPad ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รองรับการแสดงผล Flash บนเว็บเบราเซอร์ทำให้บางคนอาจจะผิดหวังเล็กน้อยเมื่อเล่นเว็บแล้วไม่สามารถดูข้อมูลได้ครบถ้วน 100%

เมื่อข้ามฝั่งจาก Apple มาทางฝั่งของ Android ก็จะเห็นได้ว่ามีผลิตภัณฑ์ Android Tablet วางจำหน่ายอยู่จนถึงตอนนี้ก็เป็นสิบรุ่นไปแล้ว ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป

Samsung Galaxy Tab

เริ่มจากตัวแรกที่เป็นที่ฮือฮามากที่สุดก็ได้แต่ Samsung Galaxy Tab ที่ประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าจะมาเป็นคู่แข่ง iPad

Samsung Galaxy Tab ด้วยขนาดหน้าจอ 7 นิ้วทำให้ตัวเครื่องมีขนาดที่ค่อนข้างกระทัดรัดและพอดีมือ สะดวกต่อการพกพา เหมาะกับการอ่านข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอีเมลล์, เอกสาร, e-book หรือแม้แต่การเล่น Facebook, Twitter จุดเด่นของ Galaxy Tab คือตัวเครื่องที่ดูโฉบเฉี่ยว บาง และหน้าจอที่สีสันสดใส สามารถถือใช้งานได้คล่องตัว นอกจากนั้นGalaxy Tab ยังมาพร้อมกับหน้าตาที่เรียกว่า TouchWiz ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Samsung รวมไปถึงแอพพลิเคชั่นอีกหลายตัวที่ถูกเสริมเข้ามาโดยการพัฒนาของ Samsung เองที่ช่วยให้การใช้งานครบถ้วนขึ้น

จากการใช้งานพบว่า Galaxy Tab สะดวกต่อการพกพาและช่วยให้การพิมพ์เป็นเรื่องง่ายมากหากพิมพ์แนวตั้งโดยใช้ 2 มือ การจัดการแบตเตอรี่ถือว่าทำได้ดีแต่พบปัญหาเรื่องการแสดงผลของบางแอพพลิเคชั่นที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รองรับหน้าจอขนาดใหญ่ แต่การใช้งานแอพพลิเคชั่นเช่น อีเมลล์หรือตารางนัดหมายถือว่าสะดวกและคล่องตัวมาก และการอ่าน e-book ก็ทำได้ค่อนข้างดี

Wellcom A800

ข้ามมาที่ Wellcom A800 ที่ถือว่าเป็น Android Tablet ที่เปิดตัวเป็นรุ่นแรกอย่างเป็นทางการในบ้านเราบ้าง การมาของ A800 ทำให้คนที่สนใจ Tablet แต่กำลังมองหาทางเลือกอื่นนอกเหนือจาก iPad เกิดการตื่นตัวและให้ความสนใจเป็นอย่างมากและเป็นส่วนผลักดันให้ A800 แจ้งเกิดได้อย่างงดงาม

A800 ถือว่าเป็น Android tablet ที่มาแบบเหนือความคาดหมายพอสมควร ทั้งเรื่องความคุ้มค่ากับราคาและการเปิดตัวพร้อมกับ Android 2.2 ทั้งๆที่ข่าวก่อนหน้านั้นระบุว่าเป็น Android 2.1 ด้านการใช้งานสามารถตอบโจทย์พื้นฐานได้ครบถ้วน ทั้งการถ่ายรูป, ดูหนัง, ฟังเพลง, อ่านอีเมลล์หรือเอกสารต่างๆ นอกจากนั้น Wellcom ยังเพิ่มแอพพลิเคชั่นพิเศษสำหรับคนไทยให้มาพร้อมกับตัวเครื่องและยังมีแผนพัฒนาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องด้วย

อย่างไรก็ตามการออกแบบตัวเครื่องยังถือว่าไม่โดดเด่นมากนักเนื่องจากตัวเครื่องที่ค่อนข้างหนาและดูเหลี่ยม แต่การประกอบถือว่าทำได้ค่อนข้างดี อาจจะเป็นเพราะใช้โรงงานเดียวกับที่ Apple ใช้ผลิต iPhone ส่วนเรื่องการสัมผัสอยู่ในระดับพอใช้ สามารถใช้งานทั่วไปได้อย่างราบรื่น

Dell Streak

มาถึงทางด้านน้องใหม่ที่กำลังจะวางขายในประเทศไทยกันบ้าง ถือเป็นครั้งแรกที่เราจะได้เห็นยักษ์ใหญ่ในวงการคอมพิวเตอร์หันมาเล่นตลาด Android tablet แต่ก็ถือว่าเปิดตัวได้อย่างสมศักดิ์ศรีทีเดียว Dell Streak เป็นน้องใหม่ที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ได้สัมผัสได้อย่างเหนือความคาดหมาย

Dell Streak ถือเป็น tablet ที่ขนาดเล็กกว่ารุ่นอื่นๆเพราะมีขนาดหน้าจอเพียง 5 นิ้ว แต่ด้วยตัวเครื่องที่ออกแบบและประกอบมาอย่างดีทำให้ดูโดดเด่นและน่าสัมผัสมาก ตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้เน้นการใช้งานแนวนอน จึงยิ่งทำให้นึกถึงเครื่องเล่นเกมพกพาอย่าง Sony PSP การใช้งานทั่วไปครบถ้วนตามแบบฉบับของ Android แต่ที่น่าจะเหมาะจริงๆก็คือการใช้งานเพื่อเล่น social network และเพื่อความบันเทิงมากกว่าการใช้งานเชิงธุรกิจ เนื่องจากขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่าโทรศัพท์มือถือรุ่นใหญ่ๆไม่มากนักและอาจจะไม่ใหญ่พอที่จะช่วยให้การใช้อีเมลล์หรือเอกสารต่างๆสะดวกมากพอระดับเดียวกับ tablet ขนาด 7 นิ้ว หลายๆคนจึงมักจะเกิดคำถามว่าจริงๆแล้ว Tablet ขนาด 5 นิ้วเหมาะกับการใช้งานแบบไหนกันแน่

Windows 7 Tablet

ตลาด tablet คงจะไม่สนุกหากขาดพี่ใหญ่อีกเจ้าอย่าง Microsoft ซึ่งก็ไม่ผิดหวังจริงๆเมื่อ Microsoft จับมือกับพันธมิตรหลากหลายเตรียมส่ง tablet พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 7 ออกมาสู้ในตลาดด้วย พันธมิตรที่ว่ามีทั้ง Fujitsu, Dell, HP, MSI, Archos ฯลฯ ซึ่งคงจะมีให้เห็นกันหลากหลายรุ่นทั้ง 7 นิ้ว 9 นิ้ว เป็นต้น และแม้จะมีเพียงน้อยรุ่นที่ออกมายืนยันสเปคแต่ก็พอจะเห็นได้ว่า Windows 7 tablets น่าจะมาพร้อมกับเครื่องที่ประสิทธิภาพสูง ลองดูตัวอย่างจาก HP Slate จะเห็นว่าตัวเครื่องมาพร้อมกับสเปคที่สูงมาก ทั้ง CPU, RAM และการรองรับการใช้งานต่างๆอย่างที่เป็นที่รู้จักดีอยู่แล้วสำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ ทำให้หลายๆคนให้ความสนใจและรอการวางจำหน่ายของ Tablet ตระกูลนี้เป็นจำนวนไม่น้อย

Playbook

รายล่าสุดที่ออกมาสร้างความสนใจในตลาด tablet คงหนี RIM หรือผู้ผลิต BlackBerry ไปไม่ได้ เมื่อ Playbook ถูกเปิดตัวพร้อมกับโฆษณาที่บรรจุจุดขายที่น่าสนใจเข้าไปอย่างเพรียบพร้อม ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ multitasking, multitouch, Adobe Flash, Adobe Air, PDF, OpenGL และอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนั้นยังมีข่าวว่าการใช้งาน Playbook ถูกออกแบบให้เข้ากับ BlackBerry อย่างสมบูรณ์แบบยิ่งทำให้หลายคนอยากเห็นว่าการเชื่อมต่อกันจะออกมาในรูปแบบไหน แต่รายละเอียดที่แน่นอนคงจะค่อยๆถูกปล่อยออกมาเรื่อยๆจนกว่าจะถึงการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไตรมาสแรกของปี 2554

เปรียบเทียบกันให้เห็นชัดๆ

หากเราลองเอารายละเอียดของแต่ละรุ่นมาให้คะแนนเพื่อดูว่าความน่าสนใจของแต่ละรุ่นเป็นอย่างไร คงจะได้ผลลัพธ์ตามตารางด้านล่างนี้ครับ โดยการให้คะแนนใช้จะแบ่งเป็น 4 ระดับคือ

3 คะแนน คือ ดีมาก
2 คะแนน คือ ดี
1 คะแนน คือ พอใช้
0 คะแนน คือ เป็นจุดอ่อน


สำหรับรายละเอียดส่วนที่เหลือเดี๋ยวจะเอามาลงให้ได้อ่านกันอาทิตย์หน้านะครับ หรือถ้ารอไม่ไหวก็หาอ่านได้จาก PC Today ปักษ์หลังเดือนตุลาคมครับ :)

Monday, November 8, 2010

Nokia workshop สำหรับผู้ใช้ N8

ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะเขียนรีวิว Nokia N8 ก่อน แต่ก็ยังไม่ได้ทำซะที จนกระทั่งได้เวลาไปร่วมงาน workshop ที่โนเกียจัดให้ผู้ที่ใช้ N8 เลยเอามาเขียนแทรกก่อนละกันนะครับ แต่ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเพราะจากที่ผมไม่คุ้นกับ N8 เลย พอไปร่วมงานถึงได้รู้จักเจ้าโทรศัพท์สเปคไฮโซตัวนี้เพิ่มขึ้นและมีหลายๆอย่างที่ทำให้ผมทึ่งไม่น้อย

งาน Nokia workshop จัดที่บู๊ธ Nokia Experience ที่พารากอนครับ ซึ่ง workshop ที่ว่านี้จะมีจัดทุกเสาร์อาทิตย์ครับ เรียกว่าใครเป็นมือใหม่อยากไปทำความรู้จักกับ N8 ก็เลือกไปฟังได้ตามสะดวกเลย ตอนที่ผมไปคือวันเสาร์ช่วงบ่าย 3 ก็มีคนมาฟังเรียกว่าไม่น้อยทีเดียวครับ

Photobucket
นี่ครับบู๊ธของโนเกียที่พารากอน จัดได้สวยดี จอและระบบเสียงดีมากๆ

Photobucket
นี่คือคนที่เข้ามาดูเครื่องตัวอย่างและรอฟังการ present

Photobucket
เปิดตัวด้วยวิดีโอแนะนำ เสียงกระหึ่มและตัววิดีโอดูดีมาก

Photobucket
น้องเนปจูน ออกมาทักทายก่อนส่งต่อให้วิทยากร

Photobucket
วิทยากรของงาน คุณเอ็ด ผู้เชียวชาญของโนเกีย ขอบอกว่าคนนี้เก่งจริงๆ

Photobucket
สาธิตการใช้กล้องและการเชื่อมต่อผ่าน HDMI

Photobucket
สุดยอดไฮไลต์ของงานคือการดูตัวอย่างหนังเรื่อง Tron ผ่าน HDMI

Photobucket
คนรุมถามเพิ่มเติมจากอาจารย์เอ็ดกันต่อ

Photobucket
น้องคนนี้เป็นสุดยอดแฟนพันธุ์แท้โนเกีย รู้ละเอียดทุกรุ่น

จากที่ไปฟังมา งาน workshop พูดถึงหัวข้อต่อไปนี้ครับ
  • แนะนำส่วนประกอบของ N8
  • การจัดการกับ widget, shortcut ต่างๆ
  • การตั้ง wallpaper
  • การจัดการกับนาฬิกา, ปฏิทิน
  • การปิดเสียงสายเข้าโดยการคว่ำเครื่อง
  • การเล่นไฟล์เพลง
  • ระบบ multitasking
  • จุดแข็งและการใช้กล้อง อันนี้น่าสนใจเพราะ N8 มีชัตเตอร์จริงๆ, มีระบบจับใบหน้า, ใช้เลนส์คาร์ลไซส์, ความเร็วที่หยุดวัตถุเคลื่อนที่ได้, การเปลี่ยนโหมดความละเอียดโดยการ pinch to zoom
  • การถ่ายวิดีโอและการตัดต่อแบบสำเร็จรูปในเครื่อง
  • การต่อกับ USB driveได้ทันที
  • การเชื่อมกับอุปกรณ์ภายนอกผ่าน HDMI เช่น การดูหนังพร้อมระบบเสียง 5.1 อันนี้ผมประทับใจมากๆ ไม่น่าเชื่อว่าเป็นการเล่นหนังผ่านมือถือเพราะมันละเอียดและลื่น เสียงคมชัดมากๆ
  • Ovi Store ที่สามารถโหลดแอพฯทั้งฟรีและเสียเงินได้ โดยราคาจะถูกกว่าประเทศอื่นๆ
  • การเล่นเกม โดย N8 มีหน่วยประมวลผลภาพต่างหาก รวมถึงรองรับ OpenGL
  • การใช้งาน social networks ต่างๆ
  • การใช้งานแผนที่และจุดแข็งที่สามารถใช้งานได้แม้ไม่ต่อเน็ตเพราะมีข้อมูลฝังบนตัวเครื่อง
เรียกว่าเป็นการฟัง workshop ที่ค่อนข้างครบถ้วนมากครับ แต่นี่เป็นเพียงข้อมูลพื้นฐานสำหรับมือใหม่ เท่าที่ได้ยินมานี่โนเกียจะมี workshop ที่เจาะลึกในแต่ละหัวข้อโดยมีมืออาชีพมานำเสนอและสอนการใช้งานแบบละเอียดอีกทีครับ อันนี้คงต้องรอดูว่าแต่ละหัวข้อที่ว่านี่มีอะไรบ้าง ใครที่เป็นแฟน N8 ก็อย่าพลาดละกันนะครับ :)

Friday, November 5, 2010

การแก้ปัญหาแอพพลิเคชั่นแสดงผลไม่เต็มจอบน Galaxy Tab

วันนี้แวะมาเขียนสั้นๆสำหรับคนที่ใช้ Galaxy Tab แล้วรู้สึกรำคาญที่แอพฯบางตัวแสดงผลไม่เต็มจอ ล่าสุดมีคนแนะนำวิธีแก้มาแล้ว ซึ่งทำให้ง่ายมากๆเลยอยากเอามาแบ่งปันครับ ต้องขอขอบคุณคุณ @kiat ที่แนะนำบน Twitter พอผมลองก็ทำได้จริงและขั้นตอนไม่ยากเลย มือใหม่ก็ทำได้แน่นอนครับ

1. ติดตั้งแอพฯชื่อ Spare Parts จาก Android Market
2. เมื่อเรียบร้อยแล้วให้เรียกแอพฯนี้ขึ้นมา จากนั้นเลื่อนลงไปเรื่อยๆจนเจอ "Compatibility Mode" ซึ่งมันจะถูกเลือกไว้อยู่ ให้เอาเครื่องหมายถูกออก จากนั้นก็กดเลือกให้เครื่องหมายถูกขึ้นมาอีกครั้ง
3. Shut down เครื่องและเปิดเครื่องใหม่
4. กลับมาที่ Spare Parts อีกครั้งหลักจากเครื่องบู๊ตเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ให้เอาเครื่องหมายที่ "Compatibility Mode" ออก แล้ว show down อีกครั้ง
5. เมื่อเปิดเครื่องมาใหม่ คราวนี้ทุกแอพฯก็จะแสดงผลเต็มจอแล้วครับ

สำหรับคลิปต้นฉบับดูได้ที่นี่ครับ


Source: www.jkkmobile.com.