Monday, July 7, 2008

Q3...

แล้วก็ไม่เคยทำได้ซะที ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะมาเขียนบ่อยๆ แต่จนแล้วจนรอดก็ผ่านไปอีกเป็นชาติกว่าจะได้มาเขียนอะไรซักที เพิ่งจะรู้ว่าครั้งล่าสุดที่เขียนคือวันเกิดผมเอง ว้าว... ผ่านไปสามเดือนกว่าแล้วนะเนี่ย เวลาเดินเร็วจริงๆ

เกือบสองเดือนแล้ว ที่ชีวิตกลับมาเป็นโสดเต็มๆตัวอีกครั้ง ไม่ได้อยู่ในสภาพนี้นานแล้ว ก็ตั้งแต่เริ่มเรียน MIM ชีวิตก็ยุ่งๆ มีอะไรทำมากมายมาตลอด ทั้งสนุกสนาน วุ่นวาย หัวเราะ ร้องไห้ มีทุกรสชาติเลยตลอด 3 ปีนี้ วันนี้ต้องกลับมาปรับพฤติกรรมตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง ตอนแรกๆก็เรียกว่าสาหัสทีเดียว แต่ก็นะ... มันก็เหมือนการโดนรถชนอ่ะครับ มันเป็นเหตุการณ์ที่เราไม่คาดฝัน แล้วก็เจ็บไม่น้อยทีเดียว แต่สำหรับคนภายนอกมันเป็นแค่แผลที่มองไม่เห็นด้วยตา ต้องบอกว่าที่รอดมาได้เพราะมีกำลังใจดีๆมากมายรอบตัวครับ ขอบคุณท่านผู้อ่านทุกคนที่อยู่กับผมมาตลอดสองเดือนที่ผ่านมา แล้วก็ต้องขอบคุณอีกหลายคนที่ไม่ได้อ่านด้วย ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ อาๆ น้องๆอีกหลายคน พี่ๆที่ทำงาน มันเป็นสองเดือนที่สับสนวุ่นวายมากสำหรับผม แต่ผมก็รอดมาได้แล้ว สิ่งร้ายๆผ่านไปแล้ว ครึ่งปีหลังนี้จะเป็นการเริ่มต้นใหม่ ผมว่ามันจะเป็นครึ่งปีที่ดีมากๆเลยครับ ^^

อย่างแรก... Project ที่ทำมาตลอด 4 เดือนปิดลงไปแล้วหนึ่งอัน เป็นความภาคภูมิใจมากๆ คิดว่าภายในเดือนนี้คงจะได้เห็นกันแล้วล่ะครับ หมายถึงว่าการแถลงข่าวนะครับ ตัว Project จริงๆคงจะยังไม่เห็นจนกว่าปีหน้า มันคืออะไร? รอดูครับ เร็วๆนี้แน่นอน
อย่างที่สอง... หมอดูบอกว่าผมจะเจอความรักครั้งใหม่เร็วๆนี้ 555 ใช่ครับ ผมไปดูหมอมา ถ้าคนที่รู้จักผมคงจะไม่เชื่อ เพราะผมไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้เลย แต่ผมรู้ละว่าทำไมศาสตร์พวกนี้ถึงอยู่รอดมาจนถึงวันนี้ วันที่วิทยาศาสตร์ก้าวหน้าอย่างมากมาย นั่นก็เพราะว่าวิทยาศาสตร์ไม่สามารถเป็นคำตอบให้กับสิ่งที่มองไม่เห็นหลายๆอย่างได้ วันที่คนต้องการคำตอบประหลาดๆ ต้องการกำลังใจ สิ่งที่มองไม่เห็นกลับให้ความหวังเราได้มากกว่าทฤษฎีใดๆ อย่างไรซะ เอาเป็นว่าผมเลือกที่จะเชื่อสิ่งที่หมอดูบอกละกัน :D มาเร็วๆนะ... ผมรออยู่
อย่างที่สาม... ผมกลับมาใช้เวลาอยู่กับการไปฟิตเนส และเจอเพื่อนๆ เป็นสิ่งที่ผมอยากจะทำอยู่แล้ว น้ำหนักลดไป 10 กิโล รู้สึกดีขึ้นมากครับ แล้วก็ได้เจอเพื่อนๆบ่อยขึ้นเยอะ เรามีนัดสังสรรค์กันทุกเดือน สนุกดีจริงๆ
อย่างที่สี่... ผมกำลังเตรียมตัวก้าวออกจาก comfort zone ของผมครั้งใหญ่ ผมยังกลัวอยู่ จริงๆแล้วผมกลัวมาตลอด 2 ปีที่ผมคิดเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ถ้าจะพูดง่ายๆ ผมก็ไม่ค่อยจะมีอะไรให้ต้องเสียแล้ว ผมว่าผมจะทำให้มันเกิดขึ้นในปีนี้ล่ะ

ชีวิตของท่านผู้อ่านเป็นไงบ้างครับ มา update กันบ้างนะครับ

ขอให้ทุกคนมีความสุขและมีกำลังใจที่ดีนะครับ

No comments: