Sunday, September 6, 2009

จะได้ไม่ลืมกัน .. The Book

ถือเป็นสิ่งที่อยากทำอย่างหนึ่งมาตั้งแต่เด็กละ.. ก็คือการได้เขียนอะไรสักอย่างให้คนอื่นได้อ่าน ที่ผ่านมาก็เขียนโน่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งวันนึงดาว M21 มาชวนเขียนแบบเป็นเรื่องเป็นราวขึ้น นั่นก็คือเขียนหนังสือในโครงการช่วยเหลือผู้ป่วย Alzheimer...

ตอนแรกนึกไม่ออกเลยว่าจะเขียนอะไร แต่สุดท้าย ก็มีส่วนร่วมจนได้ และนี่คือส่วนหนึ่งของที่ผมเขียนไว้ในหนังสือ เอามาให้อ่านนิดหน่อย ถ้าใครอยากร่วมทำบุญ ก็อยากจะขอเชิญร่วมอุดหนุนหนังสือเล่มนี้หน่อยนะครับ มีเรื่องดีๆเยอะแยะเลย อ่านแล้วทำให้ทั้งเห็นใจคนที่ป่วย รวมไปถึงครอบครัวของผู้ป่วย แต่ในอีกด้านหนึ่งก็รู้สึกมีกำลังใจ และอยากส่งกำลังใจนั้นกลับไปให้ผู้ที่ประสบเหตุการณ์ร้ายๆอยู่ อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสและช่วยเหลือกันเยอะๆนะครับ เพราะโรคนี้มันใกล้ตัวเรากว่าที่เราคิด ยอดที่ได้จากการร่วมบริจาคทั้งหมดจะเอาไปทำกิจกรรมช่วยเหลือผู้ป่วยและครอบครัวครับ :)

-----------------------------------------------------------
เรื่องราวของป้าอ้วนและลุงพงษ์ทำให้ผมมีโอกาสได้กลับมานั่งทบทวนสติตัวเองอีกครั้ง นานแล้วที่ไม่ได้กลับมานั่งฟังความคิดอีกด้านหนึ่งของตัวเองเพราะมัวแต่ฝังตัวเองไว้กับความคิดอีกด้าน ผมมัวแต่จมอยู่กับอดีต กับความสุขในวันวาน กับคนที่ผมเคยรักและอยากใช้ชีวิตด้วยทุกๆ วันจนกว่าจะตายจากกันไป แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผมกลับไม่เคยได้คิดอย่างจริงจังเลยว่า ณ เวลาที่คนเราต้องยากลำบาก เมื่อคนหนึ่งเป็นทุกข์ เจ็บป่วย หรือเผชิญกับปัญหาอันหนักหน่วง เราจะรับมือกับมันไปพร้อมๆ กันอย่างไร เราจะฝ่าฟันมันไปด้วยกันโดยไม่ทิ้งกันได้อย่างไร

เรื่องราวจากการบอกเล่าของป้าอ้วนทำให้ผมนึกถึงเพลงๆ นี้ขึ้นมาทันที มันเป็นเพลงที่ค่อนข้างจะเก่าแล้ว ผมฟังตั้งแต่ผมยังเด็ก ตอนที่ฟังสมัยเด็กๆ นั้น เราก็แค่ชอบที่ทำนองมันเพราะดี ก็แค่ร้องๆไปวันๆ มีความสุขกับการอยู่กับเสียงเพลง พอโตขึ้นมาอีกหน่อยก็เริ่มที่จะเข้าใจความหมาย สามารถรับรู้ได้ว่าเนื้อหาของเพลงมันดูมีความห่วงใย ใส่ใจ และเป็นความรักที่ดูบริสุทธิ์ จนเมื่อเวลาผ่านล่วงเลยไปอีก เมื่อตัวผมเองได้ผ่านเรื่องราวต่างๆ นานามามากขึ้น ผมก็เริ่มที่จะเข้าใจมันในมุมที่ลึกขึ้นโดยอาศัยเรื่องราวของผมเองเป็นตัวช่วย ผมเริ่มรับรู้ได้ว่าการที่ใครสักคนจะสามารถถ่ายทอดความรู้สึกแบบนี้ให้กับอีกคนได้อย่างบริสุทธิ์ใจและจริงใจ มันอาศัยอะไรอื่นๆอีกหลายอย่าง มันไม่ใช่แค่ความรักของวัยรุ่นที่นับวันก็ยิ่งจะฉาบฉวยมากขึ้นเรื่อยๆ มันไม่ใช่แค่การเดินจับมือกัน บอกรักกัน หรือส่งข้อความหวานๆ หากัน แต่มันคือการที่คนๆ หนึ่งสามารถที่จะเสียสละอะไรมากมายในชีวิตเพื่อให้อีกคนมีความสุขและมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างปลอดภัย เหมือนที่ป้าอ้วนสามารถที่จะทำทุกๆอย่างให้กับลุงพงษ์ได้ แม้ท้ายที่สุดแล้ว ป้าอ้วนเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันไปได้อีกนานเท่าไหร่ สำหรับผม...นี่แหละเป็นความรักที่บริสุทธิ์จริงๆ...
-----------------------------------------------------------
ตัดบางส่วนมาจากเรื่อง "ด้วยรักและผูกพัน" จากหนังสือ "จะได้ไม่ลืมกัน"

No comments: