Saturday, August 16, 2008

Sydney and me (Part I)

ผมเองมีความ"อยาก"ตั้งแต่เด็กที่จะต้องไปอยู่เมืองนอกให้ได้ แม้จะไม่แน่ใจว่าอะไรเป็นแรงบันดาลใจ แต่ผมรู้ตัวดีว่า"เข็มทิศชีวิต"ของผมจะต้องพาผมไปจนได้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง จนกระทั่งผมขึ้นม.ปลาย โอกาสนั้นก็มาถึงจนได้

ผมสอบ AFS 2 ปีติดต่อกัน ปีแรกผมสอบผ่านข้อเขียนแล้ว แต่ผมเปลี่ยนใจไม่ไปสัมภาษณ์ซะงั้น เหตุผลหนึ่งคือประเทศที่เลือกไปได้ไม่น่าสนใจ อีกเหตุผลคือผมเกิดกลัวการไปอยู่คนเดียวขึ้นมากระทันหัน และเหตุผลสุดท้ายคือติดเพื่อนและแฟน... แต่หลังจากที่เห็นเพื่อนไปกันแล้ว จึงมาสำนึกว่า ไม่น่าปล่อยให้ความฝันนั้นหลุดมือไปเลย ทั้งๆที่ตั้งใจดิบดีแล้วแท้ๆ จากตอนนั้นเองผมเลยตั้งความหวังไว้ว่าปีต่อมาผมจะต้องสอบอีกและคราวนี้ยังไงก็ต้องไปให้ได้

หนึ่งปีหลังจากนั้นผมทุ่มเทเต็มที่ โชคดีที่ผมเองมีพื้นภาษาที่ค่อนข้างโอเค แม้จะไม่ได้เลิศเลอ แต่ก็พอเอาตัวรอดได้สบายๆ ผมท่องศัพท์เองทุกวันวันละ 20 คำแบบสะสมไปเรื่อยๆ หมายถึงว่า วันนี้ท่องได้ 20 พรุ่งนี้เอาอีก 20 แต่ของเก่าต้องได้ด้วย จนผมรู้ตัวอีกที ผมซัดไปน่าจะเกือบๆพันคำภายในเวลาไม่นาน ในขณะเดียวกันผมต้องเตรียมตัวโดยการไปเรียนรำดาบเพื่อสอบสัมภาษณ์ด้วย ผลลัพธ์ก็คุ้มค่ากับความตั้งใจจริงๆ ผมได้ที่หนึ่งของคนที่เลือกประเทศออสเตรเลีย และแน่นอนครับ ไม่นานหลังจากนั้น ผมก็ต้องจากบ้านเกิดไปอยู่ต่างถิ่น ดินแดนแห่งจิงโจ้ แผ่นดินที่เปลี่ยนชีวิตผมไปตลอดกาล

ทุกคนที่ไปจะได้อาศัยกับ host ที่เป็นอาสาสมัครซึ่งคนเหล่านี้รับนักศึกษามาอยู่ด้วยและดูแลเหมือนคนในครอบครัว ผมเองจะแตกต่างกับคนอื่นหน่อย ตรงที่ผมได้ host วันก่อนบินเพียงวันเดียว... พ่อแม่ ญาติๆลุ้นยังกะผมจะไปแข่งโอลิมปิค ผมเองลุ้นยังกะจะไปต่างดาว พอๆกันเลยบ้านนี้ แถมที่แตกต่างอีกข้อก็คือ ครอบครัวนี้เป็นชาว Irish ครับ... สำหรับผมแล้ว ยังกะได้ไปต่าวดาว 2 ดวงในการบินเที่ยวเดียว คุ้มจริงๆ

ครอบครัวนี้น่ารักมากๆครับ Dad กับ Mum เป็นชาว Irish ที่โตใน Ireland เลย ดังนั้นภาษาจะมีสำเนียงของชาว Irish ขนานแท้ ในขณะที่ลูกๆมาโตที่นี่ รวมทั้งบางคนก็เกิดที่นี่ เลยมีสำเนียง Aussie แบบเต็มตัว... บ้านนี้มีลูก 4 คนครับ Mark, Michelle, Karren และ Greg เป็นเด็ก 4 คนที่อายุไล่เลี่ยกับผมหมด ดังนั้นผมจึงไม่มีปัญหาในการเข้ากับลูกๆเลย จะมีบ้างก็ที่ Mark ชอบทำตัวอวดเก่ง เป็นพี่คนโต จนหลายๆครั้งผมก็พูดใส่หน้ามันเป็นภาษาไทยเลยว่า "เออ มึงเก่ง... อย่ามาเมืองไทยละกัน" หรือบางครั้ง Michelle ก็ชอบทำตัวเป็นสาวเปรี้ยว จนผมแอบเขินไม่ได้ อย่างเช่นวันแรกที่ผมตื่นมา ผมออกมานั่งกินกาแฟ Michelle เดินออกมาโดยมีแค่บราและกางเกงในตัวจิ๋ว...โอ้ ต่างแดนนี่มันมีดีอย่างนี้นี่เอง ผมคิดในใจ...

ตลอดหนึ่งปีที่อยู่ที่นี่ มีเหตุการณ์และเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น ผมกล้าพูดได้เลยว่า ถ้าคุณผู้อ่านรู้ว่าผมผ่านอะไรมาบ้างคงต้องแอบทึ่งผมบ้างไม่มากก็น้อย แต่เอาเป็นว่าขอเป็น blog หน้าละกันนะครับ วันนี้ขอเกริ่นๆแค่นี้ก่อน

ราตรีสวัสดิ์ครับ


ตอนไปปีนเขากับ AFS
Chyu, Sono, Satoko



วิชาที่ผมชอบเรียนที่สุด... Drama



ตอนไปเที่ยว Safari 17 วันครึ่งประเทศ



กลางทะเลทรายที่อยู่ตรงกลางของประเทศพอดี

No comments: